ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีคนสำคัญของอังกฤษได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางความแตกแยกของคณะรัฐมนตรีอังกฤษในประเด็นการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,687.99 จุด เพิ่มขึ้น 70.29 จุด หรือ +0.92%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์จึงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นของบริษัทเหล่านี้
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงนั้น มาจากรายงานข่าวที่ว่า นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ, นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit และนายสตีฟ เบเกอร์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีอีกคนหนึ่งที่รับผิดชอบด้านกิจการ Brexit ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางความแตกแยกของคณะรัฐมนตรีอังกฤษในประเด็นการแยกตัวออกจาก EU โดยเดวิสกล่าวว่า เขาไม่สามารถสนับสนุนแผนการของนางเมย์ในการดำรงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ EU ต่อไป หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกมา พร้อมระบุว่า นางเมย์ยอมอ่อนข้อต่อ EU มากเกินไป และง่ายเกินไป
ทั้งนี้ การลาออกของรัฐมนตรีทั้งสามมีขึ้นหลังจากนางเมย์และคณะรัฐมนตรีอังกฤษได้จัดประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบต่อข้อเสนอของนายกฯเมย์ ซึ่งรวมถึงการให้อังกฤษยังคงอยู่ใน "สถานะที่มีส่วนร่วม (collective position)" สำหรับการเจรจากับ EU ในอนาคต และการจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างอังกฤษ และ EU
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นอันโตฟากัสตา ทะยานขึ้น 3.4% หุ้นเฟรสนิลโล ปรับตัวขึ้น 1.8% และหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.1%
หุ้นอินมาร์แซท ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารของอังกฤษ ทะยานขึ้น 7.2% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทเอคโคสตาร์ คอร์ปของสหรัฐ อาจยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการของอินมาร์แซทอีกครั้ง หลังจากที่ข้อเสนอของเอคโคสตาร์ได้ถูกปฏิเสธไปก่อนหน้านี้