ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ชะลอตัวลงในไตรมาส 2
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,600.45 จุด ลดลง 61.42 จุด หรือ -0.80%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2561 ขยายตัว 6.7% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่ขยายตัว 6.8% ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ของจีนยังขยายตัวเพียง 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์และน้ำมัน WTI ร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 2.1% และหุ้นบีพี ร่วงลง 2.3%
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การเมืองในอังกฤษอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐบาลอังกฤษได้เผยแพร่สมุดปกขาว (white paper) หรือรายงานสรุปเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงการยอมรับกฎระเบียบด้านมาตรฐานอาหารและการซื้อขายสินค้าของ EU
ขณะที่นายเดวิด ดาวิส อดีตรัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit ออกมาสนับสนุนความคิดเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่มองว่า แผนซอฟต์ เบร็กซิต (Soft Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาจทำลายข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐ