ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ชะลอตัวลงในไตรมาส 2
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 384.06 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,409.43 จุด ลดลง 19.77 จุด หรือ -0.36% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,600.45 จุด ลดลง 61.42 จุด -0.80% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,561.02 จุด เพิ่มขึ้น 20.29 จุด หรือ +0.16%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์และน้ำมัน WTI ร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดิ่งลง 2.1% และหุ้นบีพี ร่วงลง 2.3%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2561 ขยายตัว 6.7% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่ขยายตัว 6.8% ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ของจีนยังขยายตัวเพียง 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
ทั้งนี้ หุ้นเกลนคอร์ ดิ่งลง 1.3% หุ้นโบลิเดน ร่วงลง 1.7% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลดลง 2.5% และหุ้นอาร์เซลอร์มิททัล ร่วงลง 1.3%
หุ้นดอยซ์แบงก์ ทะยานขึ้น 7.3% หลังจากธนาคารคาดการณ์ว่ากำไรและรายได้ในไตรมาส 2 จะออกมาสูงกว่าที่คาดไว้