ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและสนับสนุนจุดยืนของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,119.89 จุด เพิ่มขึ้น 55.53 จุด หรือ +0.22% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,809.55 จุด เพิ่มขึ้น 11.12 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,855.12 จุด เพิ่มขึ้น 49.40 จุด หรือ +0.63%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับนายเจอโรม พาวเวล ที่กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นทางการคลัง, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค, การลงทุนในภาคธุรกิจ, ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน, การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ
นายพาวเวลกล่าวว่า ถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียง 2% ในไตรมาสแรก แต่ก็คาดว่าการขยายตัวในไตรมาส 2 จะสูงกว่าไตรมาสแรกอย่างมาก ส่วนภาวะตลาดแรงงานนั้น นายพาวเวลคาดว่ายังคงมีความแข็งแกร่งในช่วงหลายปีข้างหน้า ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม โดยถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวลทำให้นักลงทุนเชื่อว่า เฟดจะไม่เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เศรษฐกิจภายในประเทศส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไร 5.98 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.66 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ 9.4 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.74 พันล้าน อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดตลาดขยับลง 0.2%
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พุ่งขึ้น 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไร 2.10 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.07 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.039 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางด้านยูไนเต็ดเฮลท์ กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.92 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.98 ดอลลาร์/หุ้น จากระดับ 2.28 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.32 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นยูไนเต็ดเฮลท์ ปิดตลาดร่วงลง 2.6%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดปิดในแดนบวก โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 1.4% หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นแอปเปิล ขยับขึ้น 0.3% ส่วนหุ้นอเมซอน พุ่งขึ้น 1.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากในวัน "Prime Day 2018" ซึ่งเป็นวันช็อปปิ้งระดับโลกที่อเมซอนจัดขึ้น โดยมีการลดราคาสินค้าอย่างมากสำหรับสมาชิก Prime จำนวนหลายแสนรายการเพื่อกระตุ้นยอดขายประจำปี
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ปิดตลาดร่วงลง 5.2% หลังจากที่ดิ่งลงอย่างหนักในระหว่างวัน จากการที่บริษัทเปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการในสหรัฐเพิ่มขึ้น 670,000 รายในไตรมาส 2 ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านราย โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีท
หุ้นเทสลา มอเตอร์ ปิดตลาดดิ่งลง 4.06% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสองวันทำการ หลังจากที่นายเวอร์นอน อันสเวิร์ธ หนึ่งในทีมนักดำน้ำสำรวจถ้ำชาวอังกฤษที่ร่วมปฏิบัติการกู้ภัยนำนักเตะเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอคาเดมี 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงรายได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า เขาอาจฟ้องร้องนายอีลอน มัสก์ ผู้บริหารบริษัทสเปซเอ็กซ์ และบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา หลังจากที่นายอีลอน มัสก์ได้กล่าวหาเขาว่า เป็นพวกชอบร่วมเพศกับเด็กชาย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากร่วงลง 0.5% ในเดือนพ.ค. ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านทรงตัวที่ระดับ 68 ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและภาวะขาดแคลนบ้านในตลาด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย