ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากยอดค้าปลีกที่ซบเซาของอังกฤษได้สกัดการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,683.97 จุด เพิ่มขึ้น 7.69 จุด หรือ +0.10%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยปัจจัยที่ทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงนั้น มาจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ซึ่งระบุว่า ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรประจำเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 0.5% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักรทรงตัวที่ระดับ 2.4% ในเดือนมิ.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้น
นักลงทุนคาดว่า ตัวเลขค้าปลีกและดัชนี CPI ที่ซบเซานั้น อาจทำให้ให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนส.ค. หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว
หุ้นยูนิลีเวอร์ พุ่งขึ้น 3% แม้ทางบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขกำไรในปีงบการเงิน 2561
อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้สร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอน โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 1.9% หุ้นริโอทินโต ร่วงลง 1.2% ส่วนหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 4.1%