ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ จากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ หากมีความจำเป็น โดยจีนเป็นประเทศที่ใช้ทองแดงมากที่สุดในโลก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,678.79 จุด ลดลง 5.18 จุด หรือ 0.07%
การซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปและนิวยอร์ก ที่ปรับตัวลดลงหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าจากจีน หากมีความจำเป็น
ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC ที่มีการแพร่ภาพเมื่อคืนนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ผมพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์"
ทั้งนี้ วงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ดังกล่าวเทียบเท่ากับวงเงินสินค้าจีนที่นำเข้าสหรัฐในปีที่แล้ว ซึ่งมีมูลค่า 5.055 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่สหรัฐส่งออกสินค้าไปยังจีนคิดเป็นมูลค่าเพียง 1.299 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนและสหภาพยุโรปทำการปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ก็ได้เป็นปัจจัยฉุดตลาด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยหุ้นเกลนคอร์ ปรับตัวลดลง 1.61% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับตัวลง 1.49% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับตัวลดลง 1.37% และหุ้นอันโตฟากัสตา ขยับลง 0.085%