ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถลงการณ์จากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ที่เตือนเกี่ยวกับผลกระทบรุนแรงที่เกิดขึ้นจากสงครามการค้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,655.79 จุด ลดลง 23.00 จุด หรือ -0.30%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า สงครามการค้าและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาดังกล่าวผ่านการเจรจาและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
การประชุม G20 ครั้งล่าสุดซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินานั้น มีขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยทั้งสองประเทศต่างก็บังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีวงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้ และล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าจากจีน ในวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ หากมีความจำเป็น
หุ้นอีซี่เจ็ท ปรับตัวลง 1.7% หลังจากสายการบินคู่แข่งอย่างไรอันแอร์ โฮลดิ้งส์ ได้เปิดเผยกำไรร่วงลงอย่างหนักถึง 20% ในไตรมาสแรกของปีงบการเงินบริษัท อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และผลกระทบจากการผละงานประท้วงของกลุ่มนักบิน
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ขยับลง 0.5% หุ้นบาร์เคลย์ส ลดลง 0.1% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ลดลง 0.4% ส่วนหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 1% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ขยับขึ้น 0.1%