ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,700.85 จุด ลดลง 0.46 จุด หรือ หรือ -0.01%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเนื่องจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์จึงส่งผลกระทบต่อหุ้นของบริษัทเหล่านี้
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เงินปอนด์แข็งค่านั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า BoE จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส โดยข้อมูลล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ระบุว่า ธนาคารในอังกฤษให้การอนุมัติเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจำนวน 65,619 รายในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 64,684 รายในเดือนพ.ค.
หุ้นเซจ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ ร่วงลง 5.1% โดยได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
หุ้นโวดาโฟน กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากดีลรีพอร์ทเตอร์รายงานว่า บริษัทอิลเลียตให้เข้าซื้อหุ้นในโวดาโฟน