ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่แอปเปิลสามารถทำสถิติเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.52 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 389.16 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,615.76 จุด เพิ่มขึ้น 69.43 จุด หรือ 0.55% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,478.98 จุด เพิ่มขึ้น 18.00 จุด หรือ 0.33% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,659.10 จุด เพิ่มขึ้น 83.17 จุด หรือ 1.10%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นบีอี เซมิคอนดักเตอร์ ตลาดหุ้นเนเธอร์แลนด์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.56% หุ้นเอเอ็มเอส ผู้ผลิตเซนเซอร์ซึ่งจดทะเบียนในตลาดสวิตเซอร์แลนด์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.94% ส่วนหุ้นซิลทรอนิก ผู้ผลิตซิลิคอนเวเฟอร์ซึ่งจดทะเบียนในตลาดเยอรมนี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.18%
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เพราะตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
กระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศเมื่อคืนนี้ว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยคิดอัตราภาษีในช่วง 5-25%
จีนจะดำเนินการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว หากสหรัฐเดินหน้าจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีน
การประกาศดังกล่าวของจีนมีขึ้น หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ก่อนหน้านี้เพื่อขู่ตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์