ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 100 จุด บ่งชี้วอลล์สตรีทดิ่งคืนนี้ ผวาผลกระทบค่าเงินตุรกีทรุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 10, 2018 20:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดิ่งลงในคืนนี้ จากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการทรุดตัวลงของค่าเงินตุรกี รวมทั้งการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า

ณ เวลา 20.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 140 จุด หรือ 0.55% สู่ระดับ 25,353 จุด

ค่าเงินลีราของตุรกียังคงดิ่งลงในวันนี้ โดยล่าสุดทรุดตัวลง 14% เทียบดอลลาร์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีก 2 เท่า

ทั้งนี้ ลีราดิ่งลง 14% แตะระดับ 6.26 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังปธน.ทรัมป์ประกาศเพิ่มอัตราภาษีต่อตุรกี

"ผมได้สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีก 2 เท่า ขณะที่ค่าเงินลีราของตุรกีดิ่งลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยขณะนี้ อัตราภาษีต่อเหล็กนำเข้าจะอยู่ที่ 50% และอลูมิเนียมอยู่ที่ 20% โดยความสัมพันธ์ของเรากับตุรกีไม่ราบรื่นในขณะนี้" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

การเพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีมีขึ้น หลังการเจรจาซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองระหว่างตุรกีกับสหรัฐ ประสบภาวะชะงักงัน

นอกจากนี้ ค่าเงินตุรกียังถูกกดดัน หลังจากที่นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวเรียกร้องให้ชาวตุรกีแปลงสกุลเงินดอลลาร์และทองคำให้อยู่ในรูปสกุลเงินลีรา

ทางด้านหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานวันนี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการดิ่งลงของค่าเงินลีราของตุรกีที่จะมีต่อธนาคารยุโรป โดยเฉพาะธนาคาร BBVA ของสเปน, ธนาคาร UniCredit ของอิตาลี และธนาคาร BNP Paribas ของฝรั่งเศส

ทั้งนี้ ลีราได้ทรุดตัวลง 33% เทียบดอลลาร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น, การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และการที่รัฐบาลตุรกีใช้งบประมาณจำนวนมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการที่นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ได้เข้าแทรกแซงนโยบายการเงินของธนาคารกลาง

นอกจากนี้ ลีราดิ่งลงอย่างหนักในช่วงเช้าวันนี้ หลังการเจรจาซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองระหว่างตุรกีกับสหรัฐ ประสบภาวะชะงักงัน

การดิ่งลงของค่าเงินลีราจะส่งผลกระทบต่อธนาคารยุโรปที่ได้เข้าไปทำธุรกิจในตุรกี โดย ECB วิตกว่าการทรุดตัวของค่าเงินจะทำให้ภาคธุรกิจของตุรกีผิดนัดชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศ เนื่องจากจะทำให้ลูกหนี้ในตุรกีต้องชำระหนี้ในมูลค่าของลีราที่สูงขึ้น โดยหนี้สกุลเงินต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของสินทรัพย์ในภาคธนาคารของตุรกี

ข้อมูลจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ระบุว่า ภาคธนาคารของสเปนได้ปล่อยสินเชื่อแก่ตุรกีคิดเป็นวงเงิน 8.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารฝรั่งเศสปล่อยสินเชื่อ 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์ และธนาคารอิตาลีปล่อยสินเชื่อ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ประเทศในยูโรโซนมีการเกินดุลการค้ากับตุรกี โดยได้ส่งออกคิดเป็นมูลค่า 6.3 หมื่นล้านยูโรในปีที่แล้ว ดังนั้น หากตุรกีประสบภาวะเศรษฐกิจล่มสลาย ก็จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของยูโรโซนเช่นกัน

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.

การปรับตัวขึ้นของดัชนี CPI ได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของค่าเช่าบ้าน ขณะที่ราคาอาหารปรับตัวขึ้นเช่นกัน แต่ราคาพลังงานร่วงลง

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.9% เช่นเดียวกันในเดือนมิ.ย.

หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน โดยสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนพ.ค.และมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัว 2.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2551 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ