ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 4 วัน โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของค่าเงินลีราของตุรกี และการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของโฮม ดีโปท์ อิงค์
ณ เวลา 21.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,252.68 จุด เพิ่มขึ้น 64.98 จุด หรือ 0.26%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยการทรุดตัวของค่าเงินตุรกีจะส่งผลกระทบที่ไม่ยาวนานต่อตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากตุรกีไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือยูโรโซน ดังนั้นจึงมีความเกี่ยวข้องกับธนาคารยุโรปไม่มากนัก ซึ่งจะทำให้ปัญหาไม่ลุกลามออกไป
ตลาดได้ปัจจัยบวกจากการที่ค่าเงินลีราพุ่งขึ้นกว่า 4% สู่ระดับ 6.56 เทียบดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 7.24 เทียบดอลลาร์เมื่อวานนี้
ค่าเงินลีราดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของตุรกี และผลกระทบที่จะลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ก่อนที่ลีราจะลดช่วงติดลบในเวลาต่อมา โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางตุรกีประกาศว่า ทางธนาคารกลางจะจับตาตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด รวมทั้งอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินของประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังได้ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองสกุลลีราของธนาคารพาณิชย์ 2.50%
ลีราดิ่งลงอย่างหนักในวันศุกร์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีกสองเท่า โดยอัตราภาษีต่อเหล็กนำเข้าจะอยู่ที่ 50% และอลูมิเนียมอยู่ที่ 20%
การเพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีมีขึ้น หลังการเจรจาซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองระหว่างตุรกีกับสหรัฐ ประสบภาวะชะงักงัน
ทั้งนี้ สหรัฐเรียกร้องให้ตุรกีปล่อยตัวบาทหลวงแอนดรูว์ บรุนสัน ซึ่งถูกทางการตุรกีควบคุมตัวตั้งแต่ปี 2559 ในข้อหาให้การสนับสนุนการก่อรัฐประหารในปี 2559
ทางด้านโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไร, รายได้และยอดขายในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ โฮม ดีโปท์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 3.05 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.84 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 3.046 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.003 หมื่นล้านดอลลาร์
ยอดขายของบริษัทเติบโต 8% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.6%
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าทรงตัวในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค.
การทรงตัวของดัชนีราคานำเข้าเกิดจากการที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสวนทางการร่วงลงของราคาสินค้าอื่นๆ
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 4.8% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนมิ.ย.
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนีราคานำเข้าพื้นฐานลบ 0.1% ในเดือนก.ค. หลังจากปรับตัวลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพื้นฐานบวก 1.6% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกลดลง 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนมิ.ย.