ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 89.37 จุด รับความหวังเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน,ตลาดจับตาประชุม"แจ็กสันโฮล"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 21, 2018 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ จะสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าได้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการทำข้อตกลงซื้อขายกิจการของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,758.69 จุด เพิ่มขึ้น 89.37 จุด หรือ +0.35% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,857.05 จุด เพิ่มขึ้น 6.92 จุด หรือ +0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,821.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.68 จุด หรือ +0.06%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ทางการจีนยืนยันว่า คณะผู้แทนของจีนจะเดินทางไปยังสหรัฐภายในเดือนนี้ เพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า การเจรจาดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 22-23 ส.ค.

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของทั้งสหรัฐและจีนกำลังเร่งทำโร้ดแมพเพื่อผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งจะนำไปสู่การประชุมสุดยอดระหว่างปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ในเดือนพ.ย.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการทำข้อตกลงซื้อขายกิจการของบริษัทจดทะเบียน โดยเป๊ปซี่ โค ประกาศซื้อกิจการ โซดาสตรีม ในวงเงิน 3.2 พันล้านดอลลาร์ (2.5 พันล้านยูโร) ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหุ้นโซดาสตรีม พุ่งขึ้น 9.4% แต่หุ้นเป๊ปซี่ โค ปิดตลาดปรับตัวลง 0.1%

ทางด้านบริษัทไทสัน ฟู้ด ได้ประกาศซื้อกิจการบริษัทคีย์สโตน ฟู้ด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเนื้อไก่ ในวงเงิน 2.16 พันล้านดอลลาร์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นไทสัน ฟู้ด พุ่งขึ้น 1.6%

หุ้นเอสเต้ ลอเดอร์ ทะยานขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2 อันเนื่องมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำอย่าง "Clinique" และ "La Mer"

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขานรับความหวังในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.27% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ปรับตัวขึ้น 0.9% หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.4% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ดีดตัวขึ้น 0.5%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความหวังการเจราการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเช่นกัน โดยหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ดีดตัวขึ้น 0.6% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 1% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 2.5%

หุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 3% หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากการที่นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ไปเปอร์ แจฟเฟรย์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไนกี้

หุ้นเทสลาปิดตลาดดีดตัวขึ้นราว 1% หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน ท่ามกลางความไม่มั่นใจเกี่ยวกับแผนการของนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในการนำบริษัทออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ ในกรณีที่เฟดมีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาคิดว่านายพาวเวลจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และจะไม่ดำเนินการอย่างเข้มงวดจนเกินไป

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค., รายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 23-25 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด และสิ่งบ่งชี้สำหรับทิศทางนโยบายการเงิน"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ