ดาวโจนส์ร้อนแรงพุ่งกว่า 200 จุด ทะลุแนว 26,000 ขณะ Nasdaq ทำนิวไฮเหนือ 8,000 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 27, 2018 21:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด ทะลุระดับ 26,000 จุดในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐและเม็กซิโกจะบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ในวันนี้

นอกจากนี้ ดัชนี Nasdaq ดีดตัวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุระดับ 8,000 จุดในวันนี้ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบธ ต่างก็ปรับตัวขึ้น

ณ เวลา 21.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,001.14 จุด เพิ่มขึ้น 210.79 จุด หรือ 0.82%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า ข้อตกลง NAFTA ที่สหรัฐจะบรรลุกับเม็กซิโกเป็นข้อตกลงที่ดี

เจ้าหน้าที่เม็กซิโกรายหนึ่งกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC ในวันนี้ว่า การเจรจาข้อตกลง NAFTA ระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกได้ข้อสรุปแล้ว และคาดว่าจะมีการประกาศการบรรลุข้อตกลงในวันนี้

คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายอิลเดฟองโซ กัวจาร์โด รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโก กล่าววานนี้ว่า การเจรจาข้อตกลง NAFTA ระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกใกล้ได้ข้อยุติแล้ว

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมยืนยันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณว่า ทางธนาคารกลางกำลังใช้มาตรการเพื่อหนุนค่าเงินหยวน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นมาตรการที่จะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนว่าได้ทำการปั่นค่าเงินหยวน โดยจงใจทำให้หยวนอ่อนค่าลง เพื่อทำให้จีนได้เปรียบในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ

ธนาคารกลางจีนระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส.ค. ธนาคารกลางได้เริ่มปรับวิธีการคำนวณค่ากลางหยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งจะ"ป้องกันปัจจัยผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ" (counter-cyclical factor) โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการอ่อนค่าของสกุลเงินหยวน และทำให้ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของธนาคารกลางจีนมีขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มค่าเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความรุนแรงขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศไม่สามารถตกลงกันได้ในการเจรจาการค้าที่กรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 2% ในการซื้อขายวันนี้ หลังจากนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ยกเลิกแผนในการนำบริษัทออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา นายมัสก์ได้สร้างความแตกตื่นให้กับนักลงทุน ด้วยการทวีตข้อความระบุว่า เขากำลังพิจารณานำเทสลาออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดที่ระดับราคา 420 ดอลลาร์/หุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมด 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยนายมัสก์อ้างว่าเขามีแหล่งเงินทุนจากซาอุดิอาระเบียที่จะเข้าซื้อหุ้นที่ระดับราคาดังกล่าว

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ และนักลงทุนต่างไม่มั่นใจต่อคำกล่าวอ้างของนายเทสลา ขณะที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) เตรียมสอบสวนนายมัสก์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ