ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับเม็กซิโก ซึ่งจะปูทางไปสู่การปรับปรุงข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่เหนือระดับ 8,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,049.64 จุด เพิ่มขึ้น 259.29 จุด หรือ +1.01% ขณะที่ Nasdaq ปิดที่ 8,017.90 จุด เพิ่มขึ้น 71.92 จุด หรือ +0.91% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,896.74 จุด เพิ่มขึ้น 22.05 จุด หรือ +0.77%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงทวิภาคีกับเม็กซิโก ซึ่งจะปูทางไปสู่การปรับปรุงข้อตกลง NAFTA
ปธน.ทรัมป์ได้แถลงในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า "เราจะเรียกว่า 'ข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก' โดยเราจะยกเลิกชื่อ 'ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA)' เนื่องจากชื่อนี้มีความหมายแฝงที่ไม่ดี เพราะสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างมากจาก NAFTA เป็นเวลาหลายปี" นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโกจะช่วยสนับสนุนบรรดาเกษตรกรและผู้ผลิตของทั้งสองประเทศ
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าทางการค้าระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก โดยหุ้นในกลุ่มรถยนต์นั้น ฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ทะยานขึ้น และหุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ พุ่งขึ้น 3.5%
ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นโบอิ้ง ดีดตัวขึ้น 1.2% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 1.7% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ปรับตัวขึ้น 1.5% และหุ้น 3M เพิ่มขึ้น 1.5%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นและช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่เหนือระดับ 8,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.8% หุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดีดขึ้น 1.6% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 1.6% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวเซส (AMD) ทะยานขึ้น 5.3%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณว่า ทางธนาคารกลางกำลังใช้มาตรการเพื่อหนุนค่าเงินหยวน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นมาตรการที่จะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส.ค. ธนาคารกลางได้เริ่มปรับวิธีการคำนวณค่ากลางหยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งจะ "ป้องกันปัจจัยผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ" (counter-cyclical factor) โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการอ่อนค่าของสกุลเงินหยวน และทำให้ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม หุ้นเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐ ปิดตลาดร่วงลง 1.1% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ยกเลิกแผนในการนำบริษัทออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ขณะที่หุ้นทิฟฟานี ผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นนำของสหรัฐ ร่วงลง 1.3% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ในวันนี้ ส่วนหุ้นชิโปเล่ เม็กซิกัน กริลล์ (Chipotle Mexican Grill) แบรนด์ร้านอาหารเม็กซิกันชื่อดัง ดิ่งลง 4.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เวดบุช ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นชิโปเล่
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค., ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค.,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน