ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้น หลังจากสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับเม็กซิโก ซึ่งจะปูทางไปสู่การปรับปรุงข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA)
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,617.22 จุด เพิ่มขึ้น 39.73 จุด หรือ +0.52%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นเกลนคอร์ เพิ่มขึ้น 2.1% หุ้นเฟรสนิลโล ปรับตัวขึ้น 1.1% และหุ้น Evraz ทะยานขึ้น 5.4%
สำหรับปัจจัยที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่นั้น มาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงทวิภาคีกับเม็กซิโก ซึ่งจะปูทางไปสู่การปรับปรุงข้อตกลง NAFTA โดยปธน.ทรัมป์ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโกจะช่วยสนับสนุนบรรดาเกษตรกรและผู้ผลิตของทั้งสองประเทศ
หุ้นแอสโซซิเอทเต็ด บริติช ฟู้ดส์ (เอบีเอฟ) ร่วงลง 3.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปได้ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นเอบีเอฟ
นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา โดยนางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา กำลังเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่สหรัฐที่กรุงวอชิงตัน หลังจากที่สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับเม็กซิโกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ทางด้านนางแมรีสก็อต กรีนวู้ด ประธานสภาธุรกิจแคนาดา-อเมริกัน ได้แสดงความหวังว่า แคนาดาจะสามารถได้ข้อสรุปในข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ในสัปดาห์นี้