ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งแดนบวกและลบ ท่ามกลางความหวังที่ว่า สหรัฐและแคนาดาจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ ขณะที่สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังบรรเทาเบาบางลงด้วยเช่นกัน
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 28,242.62 จุด ลดลง 173.82 จุด, -0.61% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,883.64 จุด เพิ่มขึ้น 35.42 จุด, +0.16% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,819.63 จุด ลดลง 1.01 จุด, -0.06%
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้อนุมัติมาตรการผ่อนปรนโควต้าเหล็กและอลูมิเนียมจากประเทศคู่ค้า 4 ประเทศ โดยประเทศที่จะได้รับการผ่อนปรนจากสหรัฐในเรื่องโควต้าเหล็กได้ แก่ เกาหลีใต้ บราซิล และอาร์เจนติน่า ส่วนประเทศที่จะได้รับมาตรการผ่อนปรนอลูมิเนียมได้ แก่ อาร์เจนติน่า
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า บริษัทต่างๆสามารถยื่นเรื่องขอยกเว้นผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ หากปริมาณหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์เหล็กและอลูมิเนียมจากสหรัฐนั้น อยู่ในระดับที่ไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าว การยกเว้นจากโควต้าจะได้รับการอนุมัติ และจะไม่มีการจัดเก็บภาษี
สำหรับสถานการณ์การเจรจา NAFTA ฉบับใหม่นั้น ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายจัสติน ทรูโดว์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ต่างก็แสดงมุมมองที่เป็นบวกว่า สหรัฐและแคนาดาจะสามารถจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ภายในวันศุกร์นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายกำลังเร่งเจรจาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว หลังจากที่สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับเม็กซิโกก่อนหน้านี้
นายทรูโด กล่าวว่า "เรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการทำข้อตกลงภายในวันศุกร์นี้ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับว่าข้อตกลงนี้ดีสำหรับแคนาดาหรือไม่"
นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา เดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐเกี่ยวกับการทำข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ โดยนางฟรีแลนด์กล่าวว่า การเจรจาดำเนินไปในทิศทางที่ดี
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 1.5% ในเดือนมิ.ย.
หากเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 1.5% ซึ่งแม้ว่าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% แต่ก็ยังน้อยกว่าเดือนมิ.ย.ที่มีการขยายตัว 1.8%