ดาวโจนส์ร่วงต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งกว่า 100 จุด จับตาเจรจาการค้าสหรัฐ-แคนาดา,วิกฤตตุรกี,อาร์เจนตินา

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 30, 2018 22:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุดร่วงลงกว่า 100 จุด ก่อนถึงเส้นตายการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดาในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากวิกฤตการเงินในตุรกีและอาร์เจนตินา

ณ เวลา 22.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,011.78 จุด ลดลง 112.79 จุด หรือ 0.43%

หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้

หากดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบวันนี้ ก็จะเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 วัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงความหวังว่าแคนาดาจะบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ภายในวันพรุ่งนี้

"ผมคิดว่าแคนาดามีความต้องการอย่างมากที่จะทำข้อตกลง ซึ่งมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยถ้าพวกเขาไม่ทำข้อตกลง" ปธน.ทรัมป์กล่าว

"เราให้เวลาถึงวันศุกร์นี้ และผมคิดว่าเราจะประสบความสำเร็จ" เขากล่าว

ทางด้านนางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา กล่าวว่า การเจรจาข้อตกลง NAFTA กับสหรัฐ กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ และแคนาดาหวังที่จะเห็นการประนีประนอมเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับชัยชนะ

สกุลเงินลีราของตุรกีอ่อนค่าลงเป็นวันที่ 4 ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงส่งแรงเทขาย ท่ามกลางการขาดความเชื่อมั่นต่อค่าเงินของตุรกี หลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของธนาคารกลางตุรกีเตรียมลาออกจากตำแหน่ง

ลีราดิ่งลงกว่า 4% สู่ระดับ 6.7422 เทียบดอลลาร์ในวันนี้ และทรุดตัวลงราว 40% นับตั้งแต่ต้นปีนี้

ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า นายเออร์คาน คิลิมซี รองผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกี และเป็นสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน เตรียมลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเข้ารับตำแหน่งกรรมการของธนาคารเพื่อการพัฒนาตุรกี

นักลงทุนมองว่าหากข่าวนี้เป็นความจริง ก็จะเป็นการแสดงถึงความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและธนาคารกลางตุรกี หลังจากที่นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี มักวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารกลางเกี่ยวกับนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเขาต้องการเน้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ มากกว่าการควบคุมเงินเฟ้อ

นักลงทุนจับตาวิกฤตการเงินในอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ในละตินอเมริกา โดยมีความกังวลกันว่ารัฐบาลอาร์เจนตินาอาจผิดนัดชำระหนี้จำนวนมาก

ธนาคารกลางอาร์เจนตินาประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 15% ในวันนี้ สู่ระดับ 60% จากเดิมที่ระดับ 45% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ และชะลอการดิ่งลงของค่าเงินเปโซอาร์เจนตินา

นอกจากนี้ ธนาคารกลางอาร์เจนตินายังได้ประกาศปรับเพิ่มเงินทุนสำรองที่ธนาคารพาณิชย์ต้องฝากไว้ที่ธนาคารกลางในการคุมเข้มนโยบายการคลัง และพยุงค่าเงินเปโซ

ทั้งนี้ เปโซดิ่งลง 15% ในวันนี้ แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 39 เทียบดอลลาร์

ขณะนี้เปโซร่วงลงมากกว่า 45% เมื่อเทียบดอลลาร์ในปีนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา และเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น 25.4% ในปีนี้

ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ของอาร์เจนตินา ได้เรียกร้องให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เร่งการเบิกจ่ายเงินกู้วงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่มีการอนุมัติก่อนหน้านี้ เพื่อรับมือกับวิกฤติการเงินในประเทศ

ทางด้าน IMF ออกแถลงการณ์ระบุว่า IMF จะพิจารณาทบทวนแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลอาร์เจนตินา โดยจะพุ่งเป้าไปที่การดำเนินมาตรการที่จะป้องกันไม่ให้อาร์เจนตินาได้รับผลกระทบจากภาวะไร้เสถียรภาพในตลาดการเงินโลก

นอกจากนี้ IMF ยังระบุว่า IMF มีแผนที่จะใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้นด้านการเงินและการคลังต่ออาร์เจนตินา

ทั้งนี้ รัฐบาลอาร์เจนตินาได้บรรลุข้อตกลงเงินกู้กับ IMF ในช่วงต้นปีนี้ หลังจากที่เปโซทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยเงินกู้วงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมีอายุ 3 ปีดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อพยุงเศรษฐกิจอาร์เจนตินา และแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งสูงเกือบ 30% ต่อปี จนทำให้อาร์เจนตินาติดกลุ่มประเทศที่มีเงินเฟ้อสูงที่สุดในโลก

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากลดลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์

ทั้งนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 214,000 ราย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเท่ากับตัวเลขการใช้จ่ายในเดือนมิ.ย.

การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.ค.ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานดีดตัวขึ้น 2.0% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด หลังจากอยู่ที่ระดับ 1.9% ติดต่อกัน 3 เดือน

ก่อนหน้านี้ ดัชนี PCE พุ่งแตะระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ 2.0% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2555

ราคาหุ้นอเมซอนพุ่งขึ้นทะลุ 2,000 ดอลลาร์ในการซื้อขายวันนี้ โดยได้ดีดตัวขึ้นหลังจากเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทไม่นาน สู่ระดับ 2,009.67 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ราคาหุ้นอเมซอนทะยานขึ้น หลังจากที่มอร์แกน สแตนลีย์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นอเมซอนสูงกว่านักวิเคราะห์รายอื่นๆในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท โดยระบุถึงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นอเมซอนที่ overweight พร้อมกับปรับเพิ่มราคาเป้าหมายระยะ 12 เดือน สู่ระดับ 2,500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าระดับปิดตลาดวานนี้ถึง 25.1% และเป็นระดับที่สูงกว่านักวิเคราะห์รายอื่นๆ จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายที่ระดับ 1,850 ดอลลาร์

ราคาหุ้นอเมซอนพุ่งขึ้น 70.9% จากต้นปีนี้ และปรับตัวขึ้นมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

หากราคาหุ้นอเมซอนแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ จะทำให้มูลค่าตลาดของอเมซอนพุ่งแตะระดับ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์

บริษัทแคมป์เบลล์ ซุป เปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ยอดขายต่ำกว่าคาด

นอกจากนี้ บริษัทยังระบุแผนการขายกิจการบริษัทในเครือในต่างประเทศ 2 แห่ง รวมทั้งขายธุรกิจอาหารสด

ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยกำไรที่ระดับ 25 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 24 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทมียอดขาย 2.22 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.24 พันล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ