ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 83.61 จุด วิตกนโยบายการค้าสหรัฐ, เจรจา Brexit ยังไร้ทิศทาง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday September 1, 2018 10:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ตลอดจนความไม่แน่นอนของการเจรจาในประเด็นที่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,432.42 จุด ลดลง 83.61 จุด หรือ -1.11%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนของการเจรจาในประเด็นที่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป EU (Brexit) หลังจากที่นายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) กล่าวว่า ยุโรปจะต้องเตรียมตัวรับมือกรณีที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง

"EU จำเป็นจะต้องรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งรวมถึงกรณีที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกัน" เขากล่าว

นายบาร์นิเยร์ยังระบุว่า ประเด็นชายแดนไอร์แลนด์กับไอร์แลนด์เหนือถือเป็นประเด็นที่มีความเปราะบางมากที่สุด

นายบาร์นิเยร์ระบุดังกล่าว หลังจากที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า EU เตรียมเสนอให้อังกฤษได้รับสถานะการเป็นหุ้นส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากการแยกตัวออกจาก EU แต่ EU จะไม่อนุญาตให้มีการดำเนินการใดๆที่จะทำให้ระบบตลาดเดี่ยวของ EU อ่อนแอไป

ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้ตัวแทนเจรจาการค้าของแคนาดาได้ออกมายอมรับว่ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่กับสหรัฐได้ตามกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในการเจรจา

ในขณะเดียวกัน ความยัดแข้งระหว่างจีนและสหรัฐก็ยังคงไม่คลี่คลาย หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการเดินหน้าตามแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวานนี้อีกว่า จะถอนสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) หากทาง WTO ไม่ปฏิบัติต่อสหรัฐให้ดีกว่านี้ โดยผู้นำสหรัฐมองว่า ประเทศของตนถูก WTO เอาเปรียบมาเป็นเวลาหลายปี

การออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวของผู้นำสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างนโยบายด้านการค้าของทรัมป์ และระบบการค้าที่เปิดกว้างซึ่งทาง WTO ได้ดูแลอยู่

หุ้นแอสตราเซเนกา ผู้ผลิตเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ ลดลง 2% และหุ้นเซจ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ร่วลง 7.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ