ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ (31 ส.ค.) หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดาจบลงโดยที่ยังหาข้อยุติไม่ได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,964.82 จุด ลดลง 22.10 จุด หรือ -0.09% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,109.54 จุด เพิ่มขึ้น 21.17 จุด หรือ +0.26% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,901.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด หรือ +0.01%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.7% ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.9% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.1%
สำหรับการซื้อขายตลอดทั้งเดือนส.ค. ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 2.2% ดัชนี S&P เพิ่มขึ้น 3% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.7%
ดัชนีดาวโจนส์พลิกกลับมาปิดตลาดในแดนลบ หลังจากที่ปรับตัวแดนบวกในช่วงแรก เนื่องจากตัวแทนเจรจาการค้าของแคนาดาได้ออกมายอมรับว่ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่กับสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในการเจรจา
นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของแคนาดา กล่าวต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า แคนาดายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่กับสหรัฐ
นางฟรีแลนด์กล่าว หลังจากมีข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะไม่ประนีประนอมในการเจรจาการค้ากับแคนาดา
ด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ยังคงปฏิเสธที่จะผ่อนปรนเงื่อนไขของสหรัฐ แม้ว่านางฟรีแลนด์ได้เสนอที่จะประนีประนอมในการรักษากลไกการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าอย่างอิสระภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายมีกำหนดจัดการเจรจาอีกครั้งในวันพุธนี้
หุ้นโคคาโคล่าร่วงลง 0.9% หลังจากที่บริษัทน้ำอัดลมรายใหญ่เปิดเผยว่าจะเข้าซื้อกิจการร้านกาแฟคอสต้า คอฟฟี่ จากบริษัทวิทเบรดในมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ ส่วนหุ้นวิทเบรดทะยานขึ้น 14%