ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าขยับลงวันนี้ วิตกข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีน,ตลาดเกิดใหม่ผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 4, 2018 11:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะไร้เสถียรภาพในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ และข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,697.08 จุด ลดลง 10.30 จุด, -0.05% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,721.21 จุด เพิ่มขึ้น 8.67 จุด, +0.03% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,810.30 จุด ลดลง 3.28 จุด, -0.18%

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดเกิดใหม่ยังคงได้รับแรงกดดันในสัปดาห์นี้ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนหลังจากที่ตุรกีและอาร์เจนตินาพยายามใช้มาตรการต่างๆ หลังจากที่เกิดวิกฤตหนักในเดือนที่ผ่านมา

ธนาคารกลางตุรกีส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยระบุว่าทางธนาคารกลางจะทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมเดือนนี้ เพื่อควบคุมความเสี่ยงต่อเสถียรภาพราคา หลังจากมีการเปิดเผยว่าอัตราเงินเฟ้อของตุรกีพุ่งแตะระดับ 17.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2546

ทางด้านอาร์เจนตินานั้น ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีการส่งออกครั้งใหม่ รวมทั้งยุบบางกระทรวงเมื่อวานนี้ เพื่อยุติความผันผวนทางเศรษฐกิจ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในช่วงเช้านี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งน้อยกว่าที่ธนาคารกลางได้ประมาณการไว้เมื่อเดือนก.ค.ว่ามีการขยายตัว 0.7% นอกจากนี้ GDP ไตรมาส 2 ยังชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ซึ่งมีการขยายตัวที่ระดับ 1% โดยมีสาเหตุมาจากตัวเลขการลงทุนด้านการก่อสร้างที่ซบเซาลง

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัวเพียง 1.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 1.5% และยังต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้กำหนดไว้ที่ 2% ซึ่งส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า การดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินของธนาคารกลางเกาหลีใต้นั้น อาจจะเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ