ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยสหรัฐและแคนาดาจะเปิดฉากการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่อีกครั้งในวันนี้ หลังจากการเจรจาคว้าน้ำเหลวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,952.48 จุด ลดลง 12.34 จุด หรือ -0.05% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,091.25 จุด ลดลง 18.29 จุด หรือ -0.23% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,896.72 จุด ลดลง 4.80 จุด หรือ -0.17%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา โดยทั้งสองฝ่ายจะเปิดฉากการเจรจา NAFTA ฉบับใหม่อีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่ไม่สามารถตกลงกันได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า สหรัฐและเม็กซิโกสามารถเดินหน้าต่อไปโดยไม่ต้องมีแคนาดาในการทำข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
หุ้นไนกี้ ร่วงลง 3.2% หลังจากไนกี้ประกาศเลือกโคลิน เคเปอร์นิค ควอเตอร์แบ็คอเมริกันฟุตบอลวัย 30 ปี ให้แสดงในโฆษณาชุดใหม่ของบริษัท โดยเคเปอร์นิคเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ออกประท้วงการเหยียดผิวในกระบวนการยุติธรรมและการกระทำรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อคนผิวสี ด้วยการคุกเข่าลงระหว่างการยืนเคารพเพลงชาติสหรัฐ
หุ้นเฟซบุ๊ก ดิ่งลง 2.6% หลังจากบริษัทโบรกเกอร์ มอฟเฟตต์เนธานสัน ได้ลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นเฟซบุ๊ก โดยระบุถึงการเติบโตด้านรายได้ที่ถดถอยลง
หุ้นทรานส์โอเชียน ร่วงลง 6.7% หลังจากทรานส์โอเชียนตกลงเข้าซื้อกิจการโอเชียน ริก ยูดีดับเบิลยู ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาด้านการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง ด้วยเงินสดและหุ้นมูลค่ารวม 2.7 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นโอเชียน ริก ยูดีดับเบิลยู ทะยานขึ้น 12%
หุ้นอเมซอน ปิดตลาดปรับตัวขึ้น 1.3% หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,050.50 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดของอเมซอนทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ต่อจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ โดยเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา แอปเปิลสามารถทำสถิติเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ และอเมซอนก็สามารถทำสถิติดังกล่าวได้เมื่อคืนนี้ ซึ่งห่างจากวันที่แอปเปิลทำไว้เพียง 5 สัปดาห์
หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ นำโดยหุ้น JD.com ดิ่งลง 5.97% หลังจากมีข่าวว่า นายหลิว เฉียงตง หรือ ริชาร์ด หลิว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ได้ถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐจับกุมตัวในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศในระหว่างเดินทางไปทำธุรกิจในสหรัฐ ส่วนหุ้นนิว โอเรียลทัล เอ็ดดูเคชัน แอนด์ เทคโนโลยี ร่วงลง 3.91%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 61.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2547 จากระดับ 58.1 ในเดือนก.ค.
การพุ่งขึ้นของดัชนีภาคการผลิตของ ISM สวนทางข้อมูลของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 54.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 55.3 ในเดือนก.ค.
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 2/2561, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค., ดัชนีภาคบริการเดือนส.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.