ดัชนีดาวโจนส์พลิกทะยานขึ้นกว่า 100 จุด หลังเปิดตลาดในแดนลบวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นแอปเปิล อิงค์
อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของตลาดยังคงถูกจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,997.27 จุด บวก 140.20 จุด หรือ 0.54%
ราคาหุ้นแอปเปิล ซึ่งเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 1.9% หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 4 วัน โดยได้ปัจจัยบวกในวันนี้จากการที่นักวิเคราะห์ของยูบีเอสประกาศปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสู่ระดับ 250 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 215 ดอลลาร์ ขณะที่คาดว่าธุรกิจให้บริการของบริษัทจะมีการขยายตัว
นอกจากนี้ แอปเปิลเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ในวันพรุ่งนี้ที่สตีฟ จ็อบส์ เธียเตอร์ โดยงานดังกล่าวจะเริ่มขึ้นเวลา 10.00 น.ตามเวลาชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ หรือตรงกับเวลาเที่ยงคืนตามเวลาไทย
สื่อคาดการณ์ว่า แอปเปิลจะเปิดตัว iPhone X ใหม่ 3 รุ่นในงานดังกล่าว โดยรุ่นหนึ่งจะเป็น iPhone ที่มีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้วแบบ OLED ซึ่งเป็น iPhone ที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่แอปเปิลเคยผลิตมา ส่วนอีกรุ่นหนึ่งจะมีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้วแบบ OLED เท่ากับ iPhone X ในปัจจุบัน แต่ได้รับการอัพเกรด และอีกรุ่นหนึ่งเป็น iPhone ที่มีราคาไม่แพง แต่เพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์หลักๆ ของรุ่นเรือธง โดยมีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้วแบบ LCD
iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่นดังกล่าวต่างก็มีฟีเจอร์ Face ID ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า แทนการสแกนลายนิ้วมือ ขณะที่แอปเปิลจะเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ใน iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานได้นานกว่ารุ่นเดิม
นอกจากนี้ แอปเปิลจะเปิดตัว MacBook Air รุ่นใหม่ และ Mac Mini ที่มีการอัพเกรด รวมทั้ง Apple Watch รุ่นใหม่ และ iPad ที่มีการอัพเกรด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
จีนเตรียมขอการอนุมัติจากองค์การการค้าโลก (WTO) ในสัปดาห์หน้าเพื่อทำการคว่ำบาตรสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศที่ลุกลามออกไป
ทั้งนี้ ระเบียบวาระการประชุมของ WTO ระบุว่า จีนจะขออำนาจในการคว่ำบาตรสหรัฐในการประชุมคณะกรรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของ WTO ในวันที่ 21 ก.ย.
คำร้องของจีนระบุว่า สหรัฐไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO กรณีความขัดแย้งเกี่ยวกับการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดจากจีน ซึ่งจีนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ WTO ในปี 2556
คาดว่าการที่จีนขออนุมัติคว่ำบาตรสหรัฐในครั้งนี้ จะทำให้ทั้งสองฝ่ายทำการต่อสู้ทางด้านกฎหมายต่อไปอีกหลายปี
นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าววานนี้ว่า จีนจะตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้าจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่วงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากที่มีแผนเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้
ทั่วโลกกำลังจับตาท่าทีของปธน.ทรัมป์ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อใด หลังจากผ่านพ้นกำหนดเส้นตายในวันที่ 6 ก.ย.สำหรับการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐต่อมาตรการดังกล่าว
"หากสหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนครั้งใหม่ จีนก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดำเนินการตอบโต้เพื่อใช้สิทธิอันชอบธรรมของเรา" นายเกิงกล่าว
ขณะนี้ สหรัฐและจีนได้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแต่ละฝ่ายในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค. ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้ารุนแรงขึ้น แม้มีการเจรจาแก้ไขข้อพิพาททางการค้าหลายรอบ
เมื่อเดือนที่แล้ว จีนเปิดเผยรายชื่อสินค้าสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จีนเตรียมตอบโต้ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์