ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ได้ฉุดหุ้นบริษัทข้ามชาติร่วงลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางตลาดการเงิน ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัยอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,281.57 จุด ลดลง 31.79 จุด หรือ -0.43%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเนื่องจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์จึงส่งผลกระทบต่อหุ้นของบริษัทเหล่านี้
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี BoE ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดการเงิน ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัย Brexit
ถ้อยแถลงของ BoE ระบุว่า ภาคธุรกิจได้คุมเข้มการใช้จ่าย และชะลอการลงทุน ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ในปีหน้า ขณะที่กลุ่มผู้ส่งออกคาดว่ามีแนวโน้ม 40% ที่ยอดขายจะได้รับผลกระทบจากปัจจัย Brexit
หุ้นบริษัทผลิตบุหรี่ร่วงลง โดยหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ดิ่งลง 1.9% หุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ส ร่วงลง 2.5%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลง โดยหุ้นอันโตฟากัสตา ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองทองคำรายใหญ่ ร่วงลง 1.7% ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ดิ่งลง 1.66%