ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในอัตราต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปในวันนี้
ณ เวลา 20.03 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 84 จุด หรือ 0.32% สู่ระดับ 26,186 จุด
ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นมูลค่ารวม 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ทางการสหรัฐระบุว่า ผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์จากบริษัทแอปเปิล และบริษัทฟิตบิท รวมทั้งสินค้าเพื่อผู้บริโภครายการอื่นๆเช่น หมวกกันน็อค และที่นั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก ไม่ได้รวมอยู่ในรายการสินค้าที่ถูกเรียกเก็บภาษีครั้งล่าสุดนี้
นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า การที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้าจีนมีจุดประสงค์เพื่อให้จีนปรับปรุงพฤติกรรมของตน และสร้างความเสมอภาคให้แก่บริษัทสหรัฐที่เข้าไปทำธุรกิจในจีน
นายรอสส์กล่าว หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ นายรอสส์ยังระบุว่า ขณะนี้ จีนไม่มี"กระสุน"ที่จะตอบโต้สหรัฐแล้ว เนื่องจากจีนส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐมากกว่าเกือบ 4 เท่าเมื่อเทียบกับที่สหรัฐส่งออกสินค้าไปยังจีน
"ถ้าจีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีที่จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและอุตสาหกรรมอื่นของเรา เราก็จะเริ่มขั้นตอนที่ 3 ในทันที ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์" เขากล่าว
ทั้งนี้ หากสหรัฐดำเนินการตามขั้นตอนที่ 3 นอกเหนือจากที่เรียกเก็บภาษีสินค้าวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ และ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่เรียกเก็บก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าสหรัฐได้เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐได้นำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 5.05 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว