ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) หลังจากสหรัฐและจีนเรียกเก็บภาษีนำเข้าในระดับต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นโฟล์คสวาเกนที่ดีดตัวขึ้นกว่า 2% หลังจากบริษัทประกาศแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 10 ล้านคัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดขยับขึ้น 0.1% แตะที่ระดับ 378.73 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,157.67 จุด เพิ่มขึ้น 61.26 จุด หรือ +0.51% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,363.79 จุด เพิ่มขึ้น 14.92 จุด หรือ +0.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,300.23 จุด ลดลง 1.87 จุด หรือ -0.03%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในอัตราต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า
ส่วนรัฐบาลจีนได้ออกมาตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตราภาษี 5-10% คิดเป็นวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย. อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีดังกล่าวยังต่ำกว่าระดับ 20% ที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
หุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทประกาศแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 10 ล้านคัน ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มรถยนต์นั้น หุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ดีดตัวขึ้น 0.2% หุ้นเดมเลอร์ เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้นออดี้ พุ่งขึ้น 1.9% และหุ้นเปอร์โยต์ พุ่งขึ้น 3.8%
หุ้นธิสเซ่นครุปป์ (Thyssenkrupp) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.24% ขณะที่หุ้นอินฟิเนียน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของยุโรป ปรับตัวขึ้น 1.56%
หุ้นซาแลนโด ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกออนไลน์ของเยอรมนี ดิ่งลงกว่า 13% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2562