ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากอังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,331.12 จุด เพิ่มขึ้น 30.89 จุด หรือ +0.42%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ทะยานขึ้น 2.7% และหุ้นบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 2.2%
สำหรับปัจจัยที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารนั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หลังจากที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 0.25% สู่ระดับ 0.75% ในการประชุมเดือนส.ค.
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสหราชอาณาจักร ปรับตัวขึ้นแตะ 2.7% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านเสื้อผ้า สันทนาการ รวมทั้งการขนส่งทางเรือและอากาศ
อัตราเงินเฟ้อในเดือนส.ค. ออกมาสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะชะลอตัวสู่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนก.ค.เป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว