ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ของอังกฤษ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,511.49 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด หรือ +0.05%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์จึงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นของบริษัทเหล่านี้
หุ้นเอ็นเอ็มซี เฮลธ์ และหุ้นโครดา อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 3.1% และ 2.4% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นเฟรสนิลโล ร่วงลง 3.6% และหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส ดิ่งลง 2.5% โดยก่อนหน้านี้หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากบริษัทแบร์ริค โกลด์ ประกาศเข้าซื้อกิจการของบริษัทแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส ด้วยวงเงิน 6.1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อตั้งบริษัทเหมืองทองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการประมาณการครั้งสุดท้ายของตัวเลข GDP อังกฤษประจำไตรมาส 2 ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ส่วนเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ได้เปิดเผยการประมาณการเบื้องต้นของ GDP ไตรมาส 2 โดยระบุว่า ขยายตัว 0.4% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของภาคก่อสร้าง, ค้าปลีก และการบริการ