ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลง ภายหลังจากที่ได้รับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งมุมมองของเฟดที่มีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,693.00 จุด ลดลง 123.87 จุด, -0.45% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 24,001.72 จุด ลดลง 32.07 จุด, -0.13% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,798.19 จุด ลดลง 0.53 จุด, -0.03%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ว่า บริษัทเอกชนของสหรัฐได้แสดงความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้า และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
"เราได้รับรู้ถึงความวิตกกังวลจากภาคธุรกิจทั่วประเทศ เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น หากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อไปเป็นเวลานาน ซึ่งรวมถึงการที่ประเทศต่างๆพากันออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเป็นวงกว้างนั้น ย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างแน่นอน" นายพาวเวลกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามความเห็นว่า มาตรการเก็บภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และหนุนอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐหรือไม่ นายพาวเวลตอบว่า "นี่เป็นเรื่องที่เรากังวล และถือเป็นปัจจัยเสี่ยง เพราะอาจทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น มาตรการภาษีจะส่งผลให้บริษัทเอกชนพากันปรับขึ้นราคาสินค้า แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกไม่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าก็ตาม อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ เรายังไม่พบว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น และเราไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น แต่หากเป็นเช่นนั้น เฟดก็จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์เงินเฟ้อ"
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) โดยระบุว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนส.ค.บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นในระดับที่แข็งแกร่งเช่นกัน ส่วนการขยายตัวของการจ้างงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น โดยเฉลี่ยมีความแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อรายปี ทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ยังคงอยู่ใกล้ระดับ 2% ขณะที่ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวบ่งชี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 16.2% ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.ซึ่งมีการขยายตัว 17.2%