ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) หลังจากนักลงทุนซึมซับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีปรับตัวลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 386.38 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,435.59 จุด เพิ่มขึ้น 49.70 จุด หรือ +0.40% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,540.41 จุด เพิ่มขึ้น 27.68 จุด หรือ +0.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,545.44 จุด เพิ่มขึ้น 33.95 จุด หรือ +0.45%
นักลงทุนได้ซึมซับผลการประชุมของคณะกรรมการเฟดซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.ปีนี้
เฟดได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจ โดยระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นอย่างมาก ขณะที่การใช้จ่ายในภาคครัวเรือน และการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของภาคธุรกิจได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.1% จากเดิมที่ 2.8% และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.5% จากเดิมที่ 2.4%
หุ้น Hennes & Mauritz ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ พุ่งขึ้น 11.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 ที่สูงกว่าคาดการณ์
หุ้นธิสเซ่นครุปป์ (Thyssenkrupp) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กของเยอรมนี พุ่งขึ้น 10.16% ขณะที่หุ้นไบเออร์ ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์และเวชภัณฑ์รายใหญ่ของเยอรมนี ปรับตัวขึ้น 1.9% และหุ้นโฟล์คสวาเกน ดีดตัวขึ้น 1.5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองภายในประเทศ โดยหุ้นยูนิเครดิต หุ้นบังโค บีเอ็มพี และหุ้นยูเนียน เดอ บองช์ อิตาเลียนา ต่างก็ปรับตัวลงในช่วง 0.4-2.1%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ โดยเยอรมนี,ฝรั่งเศส,ยูโรโซนจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ส่วนอังกฤษจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งสุดท้าย)