ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืน โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 24,080.01 จุด เพิ่มขึ้น 283.27 จุด, +1.19% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,794.26 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด, +0.09% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,879.06 จุด เพิ่มขึ้น 163.39 จุด, +0.59% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 11,050.09 จุด เพิ่มขึ้น 15.90 จุด, +0.14% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,356.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด, +0.03% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,250.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.05 จุด, +0.43% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,795.91 จุด ลดลง 2.73 จุด, -0.15% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,313.67 จุด ลดลง 6.92 จุด, -0.09%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า GDP ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 4.2% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี หลังจากขยายตัวเพียง 2.2% ในไตรมาสแรก
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์
นอกจากนี้ นักลงทุนได้ซึมซับผลการประชุมของคณะกรรมการเฟดซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.ปีนี้
ขณะเดียวกัน เฟดได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจ โดยระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นอย่างมาก ขณะที่การใช้จ่ายในภาคครัวเรือน และการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของภาคธุรกิจได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.1% จากเดิมที่ 2.8% และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.5% จากเดิมที่ 2.4%