ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 192.90 จุด รับข่าวสหรัฐ,เม็กซิโก,แคนาดาบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 2, 2018 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ขานรับข่าวสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ โดยข่าวความคืบหน้าดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 2.8%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,651.21 จุด พุ่งขึ้น 192.90 จุด หรือ +0.73% ขณะที่ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,924.59 จุด เพิ่มขึ้น 10.61 จุด หรือ +0.36% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,037.30 จุด ลดลง 9.05 จุด หรือ -0.11%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้า หลังจากนางคริสเตียน ฟรีแลนด์ รมช.ต่างประเทศแคนาดา และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า "แคนาดาและสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกับเม็กซิโกแล้ว โดยข้อตกลงฉบับใหม่ ซึ่งเรียกว่า "ข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา" (United States-Mexico-Canada Agreement) หรือ USMCA เป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ได้รับการแก้ไขให้มีความทันสมัยเหมาะสมกับศตวรรษ์ที่ 21" ทั้งนี้ ข้อตกลง USMCA จะเข้ามาแทนที่ข้อตกลง NAFTA ซึ่งถูกใช้มานานกว่า 24 ปี

ทั้งนี้ ผู้นำของสหรัฐ เม็กซิโก และแคนาดา จะลงนามในข้อตกลง USMCA ภายในสิ้นเดือนพ.ย. และหลังจากนั้นจะมีการนำข้อตกลงดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาคองเกรสเพื่อให้การอนุมัติต่อไป

หุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมได้แรงหนุนจากข่าวการบรรลุข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ โดยหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ทะยานขึ้น 2.3% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปรับตัวขึ้น 0.8%

ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 1.4% หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ปรับตัวขึ้น 0.8% และหุ้น 3M เพิ่มขึ้น 0.7%

บริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) ทะยานขึ้น 7.1% ขานรับข่าวการปลดนายจอห์น แฟลนเนอรี ออกจากตำแหน่งประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท โดยคณะกรรมการบริหารของ GE มีมติปลดนายแฟลนเนอรีออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่พอใจต่อความล่าช้าในการปฏิรูปบริษัท และได้ประกาศแต่งตั้งนายลอว์เรนซ์ คัลป์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดานาเฮอร์ ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนนายแฟลนเนอรี

หุ้นเทสลา มอเตอร์ พุ่งขึ้น 17.3% หลังจากมีรายงานว่า นายอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลา สามารถบรรลุข้อตกลงในการยุติคดีกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ซึ่งจะทำให้นายมัสก์สามารถดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทต่อไป โดยนายมัสก์ยินยอมจ่ายค่าปรับจำนวน 20 ล้านดอลลาร์ให้แก่ SEC หลังจากที่นายมัสก์ได้ทวีตข้อความในวันที่ 7 ส.ค.ว่า เขามีแผนที่จะนำบริษัทเทสลาออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด โดยเขามีแหล่งเงินทุนที่จะเข้าซื้อหุ้นในราคา 420 ดอลลาร์ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นแตะ 387.46 ดอลลาร์ในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.8% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 2% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นมาราธอน ออยล์ เพิ่มขึ้น 2.5% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ปรับตัวขึ้น 1.3% และหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 1.8%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ซึ่งฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.2% ขณะที่หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.8%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.6 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 54.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ของมาร์กิตสวนทางกับผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ร่วงลงสู่ระดับ 59.8 ในเดือนก.ย. โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 60.4 หลังจากแตะระดับ 61.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2547

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนส.ค. จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค., ดุลการค้าเดือนส.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ