ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งในแดนบวกและลบ โดยนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิตาลีและอินโดนีเซีย ภายหลังจากที่รัฐบาลอิตาลียังคงยืนกรานที่จะคงแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังติดตามสถานการณ์ระหว่างจีนและสหรัฐในบริเวณทะเลจีนใต้ ภายหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ออกมาตอบโต้กันเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพในการเดินเรือในบริเวณดังกล่าว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 24,257.21 จุด ลดลง 13.41 จุด, -0.06% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,985.84 จุด ลดลง 140.54 จุด, -0.52% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,796.11 จุด ลดลง 2.04 จุด, -0.11%
รัฐบาลอิตาลียืนยันว่า ทางรัฐบาลจะไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปี 2562 เอาไว้ที่ระดับ 2.4% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) แม้ว่ารัฐมนตรีคลังของกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป จะออกมากล่าวเตือนให้พิจารณาแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณอีกครั้งก็ตาม
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว รัฐบาลอิตาลีได้เสนอแผนที่จะปรับเพิ่มเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปี 2562 สู่ระดับ 2.4% ของ GDP ซึ่งแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าขีดจำกัดของสหภาพยุโรป (EU) ที่ระดับ 3% แต่ก็สูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลชุดก่อนถึง 3 เท่า
เมื่อวานนี้ รัฐบาลจีนได้แสดงความไม่พอใจและแสดงท่าทีต่อต้านอย่างรุนแรง หลังจากเรือรบสหรัฐแล่นเข้าน่านน้ำใกล้เคียงกับหมู่เกาะและแนวหินของจีนในทะเลจีนใต้
นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า "ในวันที่ 30 ก.ย. เรือพิฆาตดีเคเตอร์ (Decatur) ของสหรัฐได้เข้าสู่น่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะและแนวหินของหมู่เกาะนันชาของจีนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีน"
นางหัวระบุว่า กองทัพเรือจีนตรวจพบเรือรบของสหรัฐ และได้ทำการเตือนรวมถึงขับไล่ออกจากน่านน้ำแล้ว พร้อมเน้นย้ำว่าจีนมีอำนาจอธิปไตยซึ่งไม่อาจโต้แย้งได้ในหมู่เกาะนันชาและน่านน้ำใกล้เคียง