ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) หลังจากรัฐบาลอิตาลีให้คำมั่นว่าจะปรับลดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณลงในปี 2563-2564 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในอิตาลี
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,510.28 จุด เพิ่มขึ้น 35.73 จุด หรือ +0.48%
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรปที่ต่างก็ปรับฐานขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิตาลี หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิตาลีได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลอิตาลีจะกำหนดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปี 2562 ไว้ที่ 2.4% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) แต่รัฐบาลจะปรับลดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปี 2563 ลงเหลือ 2.1% และลดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปี 2564 ลงเหลือ 1.8% ของตัวเลข GDP
หุ้นไอทีวี สื่อรายใหญ่ของอังกฤษ ทะยานขึ้น 3.77% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นบลูชิพที่คำนวณในดัชนี FTSE 100 ขณะที่หุ้นคิงฟิสเชอร์ และหุ้นชโรเดอร์ พุ่งขึ้น 3% และ 2.85% ตามลำดับ
หุ้นเทสโก้ ร่วงลง 6.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหราชอาณาจักรปรับตัวลดลงแตะ 53.9 ในเดือนก.ย. จากระดับ 54.3 ในเดือนส.ค.
ดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของอังกฤษมีการขยายตัว ขณะที่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 จะสะท้อนถึงภาวะหดตัว
มาร์กิตระบุว่า การปรับตัวลดลงของดัชนี PMI ภาคบริการสหราชอาณาจักร เป็นผลจากการชะลอตัวลงของยอดคำสั่งซื้อใหม่ ประกอบกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป และทิศทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน