ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรปที่พากันร่วงลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,318.54 จุด ลดลง 99.80 จุด หรือ -1.35%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรป เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 134,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง โดยกระทรวงฯระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่พายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ซึ่งพัดถล่มรัฐนอร์ธและเซาธ์แคโรไลนาในเดือนก.ย. เป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขการจ้างงานลดลงในบางภาคอุตสาหกรรม
ส่วนอัตราการว่างงานเดือนก.ย.ของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 3.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นริโอทินโต ต่างก็ร่วงลงประมาณ 4%
ส่วนหุ้นโอคาโด กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์รายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 4.8%
นักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาข้อตกลงระหว่างอังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยอังกฤษและสหภาพยุโรปจะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่ 17-18 ต.ค. ซึ่งถ้าหากมีความคืบหน้าในการเจรจา Brexit ทั้งสองฝ่ายก็จะจัดการประชุมสุดยอดอีกครั้งในวันที่ 17-18 พ.ย.
ทางด้านนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า เขาหวังว่าคณะมนตรียุโรปจะมีความคืบหน้าในการเจรจา Brexit กับอังกฤษในเดือนนี้ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถทำข้อตกลงกันในเดือนหน้า