ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 100 จุด ร่วงเป็นวันที่ 3 หุ้นพลังงานฉุดตลาด กังวลบอนด์ยีลด์พุ่ง,จีนหั่น RRR

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 8, 2018 20:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด โดยปรับตัวลงเป็นวันทำการที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.

ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,330.10 จุด ลดลง 116.95 จุด หรือ 0.44%

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง

ตลาดพันธบัตร และหน่วยงานราชการสหรัฐปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันโคลัมบัส แต่ตลาดหลักทรัพย์, สินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดปริวรรตเงินตราสหรัฐ ยังคงเปิดทำการ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในวันศุกร์ที่แล้ว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งเหนือระดับ 3.240% แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 7 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีทะลุระดับ 3.40% หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ย. โดยเพิ่มขึ้นเพียง 134,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% เช่นเดียวกันในเดือนส.ค. และเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) ในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เช่นเดียวกับในเดือนส.ค.

หากตัวเลข CPI ดีดตัวขึ้นมากกว่าระดับ 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะเป็นปัจจัยเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

เมื่อเดือนที่แล้ว เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า และอีก 1 ครั้งในปี 2563

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 74 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยนักลงทุนมองว่าการที่สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด เนื่องจากอิหร่านจะยังคงส่งออกน้ำมันให้แก่บางประเทศ

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังร่วงลงจากการคาดการณ์ที่ว่า ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไปจากอิหร่าน

ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียระบุว่าจะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนพ.ย.สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดิมที่ระดับ 10.7 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค.

ณ เวลา 20.12 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.18% สู่ระดับ 73.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

นายดาร์เมนทรา ประธาน รมว.น้ำมันของอินเดีย กล่าวว่า อินเดียจะยังคงซื้อน้ำมันจากอิหร่านในเดือนหน้า แม้มีคำเตือนจากสหรัฐมิให้ประเทศต่างๆซื้อน้ำมันจากอิหร่านตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐคว่ำบาตร โดยวันที่ 4 พ.ย.เป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ปธน.ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่

นายประธานยืนยันว่า บริษัทน้ำมัน 2 แห่งของอินเดียได้สั่งนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านในเดือนหน้า

นอกจากนี้ รัฐมนตรีน้ำมันของอินเดียกล่าวว่า อินเดียจะซื้อน้ำมันจากอิหร่านโดยใช้เงินรูปีของอินเดีย แทนที่จะใช้ดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อการใช้เงินสกุลดอลลาร์ในการซื้อน้ำมันอิหร่าน

ราคาหุ้นของบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) พุ่งขึ้นกว่า 1% ในการซื้อขายวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่บาร์เคลยส์ประกาศปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของ GE สู่ระดับ overweight จากเดิมที่ equal weight

บาร์เคลยส์ระบุว่า ราคาหุ้นของ GE ได้สะท้อนข่าวลบที่ผ่านมาของบริษัทแล้ว และมีการคาดการณ์กันว่า การแต่งตั้งนายลอว์เรนซ์ คัลป์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ จะช่วยพลิกฟื้นกิจการของบริษัท

ราคาหุ้นของ GE ทะยานขึ้นมากกว่า 16% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวรายสัปดาห์ดีที่สุดในรอบ 9 ปี หลังจากที่ GE ประกาศปลดนายจอห์น แฟลนเนอรี ออกจากตำแหน่งประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เนื่องจากไม่พอใจต่อความล่าช้าในการปฏิรูปองค์กรบริษัท และได้ประกาศแต่งตั้งนายลอว์เรนซ์ คัลป์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดานาเฮอร์ ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนนายแฟลนเนอรี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ