ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าดิ่งลงกว่า 150 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะร่วงลงในคืนนี้ ขณะที่ถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
ณ เวลา 19.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 153 จุด หรือ 0.58% สู่ระดับ 26,391 จุด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันโคลัมบัส
ณ เวลา 18.35 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.246% หลังจากพุ่งทะลุ 3.250% ในช่วงแรก ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2554 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.427%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ จึงทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว หลังการเปิดเผยอัตราการว่างงานในสหรัฐต่ำสุดในรอบ 49 ปี ขณะที่มีการขยายตัวของค่าจ้างแรงงาน ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เมื่อเดือนที่แล้ว เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า และอีก 1 ครั้งในปี 2563
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยเขาระบุว่า เฟดยังคงต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกมาก ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับที่เป็นกลาง