ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ ขณะที่ถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้นราว 19% ในไตรมาส 3 หลังจากพุ่งขึ้น 25% ในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้
ณ เวลา 21.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,429.13 จุด ลดลง 57.65 จุด หรือ 0.22%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันโคลัมบัส
ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อ่อนตัวสู่ระดับ 3.216% หลังจากพุ่งทะลุ 3.250% ในช่วงแรก ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2554 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.388%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ จึงทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว หลังการเปิดเผยอัตราการว่างงานในสหรัฐต่ำสุดในรอบ 49 ปี ขณะที่มีการขยายตัวของค่าจ้างแรงงาน ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เมื่อเดือนที่แล้ว เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า และอีก 1 ครั้งในปี 2563
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยเขาระบุว่า เฟดยังคงต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกมาก ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับที่เป็นกลาง
หุ้นวอลมาร์ทพุ่งขึ้น 1% ในวันนี้ หลังจากที่ดอยซ์แบงก์ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของวอลมาร์ท โดยระบุว่าวอลมาร์ทจะได้อานิสงส์จากการครองสัดส่วนตลาดมากขึ้นในธุรกิจออนไลน์ และจะสามารถแข่งขันกับอเมซอน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) ในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เช่นเดียวกับในเดือนส.ค.
หากตัวเลข CPI ดีดตัวขึ้นมากกว่าระดับ 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)