ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป (EU) อาจบรรลุข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในวันจันทร์หน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 372.93 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,977.22 จุด เพิ่มขึ้น 30.06 จุด หรือ +0.25% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,237.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.26 จุด หรือ +0.06% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,318.55 จุด เพิ่มขึ้น 18.31 จุด หรือ +0.35%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักข่าวดาวโจนส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากนักการทูตระบุว่า สหราชอาณาจักร และ EU อาจบรรลุข้อตกลง Brexit ภายในวันจันทร์หน้า โดยรายงานระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถลดความขัดแย้งเกี่ยวกับประเด็นชายแดนของประเทศไอร์แลนด์ แต่ก็ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันในบางเรื่อง
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นโททาล พุ่งขึ้น 1.4% ขณะที่หุ้นบีพี เพิ่มขึ้น 0.4%
หุ้นโรช ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรป ปรับตัวลง 0.2% ขณะที่หุ้นโนโวซามส์ ดิ่งลง 1.4%
หุ้นแอร์บัส ร่วงลง 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันวันที่สอง หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บริษัทแอร์บัสเตรียมแต่งตั้งนายกิลลูเม ฟาวรี ให้ดำรงตำแหน่งประธานบริหารคนใหม่ แทนนายทอม เอนเดอร์ส
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของเยอรมนีประจำเดือนส.ค. ขยับลง 0.1% สวนทางกับการคาดการณ์ที่คาดว่าจะขยายตัว 0.3%
ส่วนยอดนำเข้าเดือนส.ค.ปรับตัวลง 2.7% ต่างจากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวลง 0.2% ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นแตะ 1.83 หมื่นล้านยูโร (2.102 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนส.ค.