ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย จากกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุฯ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 361.67 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,589.21 จุด ลดลง 125.82 จุด หรือ -1.07% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,026.99 จุด ลดลง 27.61 จุด หรือ -0.39% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,116.79 จุด ลดลง 28.15 จุด หรือ -0.55%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย โดยล่าสุดนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้ตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมงานประชุม Future Investment Initiative (FII) ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลหลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟดบ่งชี้ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค.ปีนี้
สถานการณ์ด้านงบประมาณของอิตาลียังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด หลังจากมีรายงานข่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธแผนการใช้จ่ายของรัฐบาลอิตาลี โดยรัฐบาลอิตาลีต้องการเพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีหน้า ขณะที่ EU เรียกร้องให้อิตาลีดำเนินการไปสู่การมีงบประมาณสมดุล เนื่องจากอิตาลีมีหนี้ในภาครัฐจำนวนมาก
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) ว่าจะมีความคืบหน้าหรือไม่ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้แสดงความพร้อมที่จะพิจารณายืดระยะเวลาในการดำเนินกระบวนการเปลี่ยนผ่านก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างสมบูรณ์ เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายมีเวลาเจรจาการค้าได้มากขึ้น
หุ้นยูนิลีเวอร์ ปรับตัวลง 0.9% แม้บริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง หลังจากสามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น ในราคาที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
หุ้นคาร์ฟูร์ ดีดตัวขึ้น 9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3
หุ้นอีริคสัน ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารชั้นนำจากสวีเดน พุ่งขึ้น 6.2% หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนจากการดำเนินงานในอเมริกาเหนือ โดยบริษัทมียอดขายพุ่งขึ้น 9% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบรายไตรมาส
นอกจากนี้ อีริคสันมีกำไรจากการดำเนินงาน 3.2 พันล้านโครนาสวีเดน (356.5 ล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับตัวเลขขาดทุน 3.7 พันล้านโครนาในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว