ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 22,342.00 จุด ลดลง 316.16 จุด, -1.40% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,460.08 จุด ลดลง 26.34 จุด, -1.06% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,172.03 จุด ลดลง 282.52 จุด, -1.11% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,879.47 จุด ลดลง 74.26 จุด, -0.75% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,130.06 จุด ลดลง 18.25 จุด, -0.85% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,046.87 จุด ลดลง 22.80 จุด, -0.74% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,733.71 จุด ลดลง 4.30 จุด, -0.25% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,122.50 จุด ลดลง 18.75 จุด, -0.26%
ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบียยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความวิตกกังวลต่อตลาด สืบเนื่องมาจากกรณีการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวซาอุดีอาระเบีย โดยล่าสุดนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้ตัดสินใจยกเลิกการเข้าร่วมงานประชุม Future Investment Initiative (FII) ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย แม้ว่าก่อนหน้านี้เขายืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เชื่อว่า นายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวซาอุดีอาระเบีย ได้เสียชีวิตแล้ว โดยอ้างอิงจากข้อมูลข่าวกรอง
"เว้นแต่ปาฎิหารย์ของปาฎิหารย์ทั้งหมดจะเกิดขึ้น ผมเชื่อว่าเขาได้เสียชีวิตแล้ว โดยทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลข่าวกรองที่มาจากทุกๆด้าน" ปธน.ทรัมป์กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทม์ส
นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอีกครั้ง หลังจากนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับจีนยังคงไม่มีความคืบหน้า พร้อมกับระบุว่า จีนทำการค้าอย่างไม่ยุติธรรม และขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย โดยการเปิดเผยของนายคุดโลว์มีขึ้นก่อนการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ และควบคุมอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงจากภาวะไร้สมดุลทางการเงิน ส่วนการประชุมในวันดังกล่าวนั้น คณะกรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.