ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 7 จุด ขณะนลท.จับตาสถานการณ์เบร็กซิต

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 23, 2018 05:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) ขณะที่ตลาดจับตาการแถลงต่อสภาสามัญชนของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิต (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนลดลง 7.00 จุด หรือ -0.10% ปิดที่ 7,042.80 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนเคลื่อนไหวแดนบวกในช่วงเปิดตลาด โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นร้อนแรงของตลาดหุ้นจีนถึงกว่า 4% หลังจากทางการจีนได้ออกมาประกาศให้การสนับสนุนภาคเอกชน ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ดัชนีฟุตซี่ไม่สามารถพยุงตัวในแดนบวกเอาไว้ได้ โดยพลิกกลับมาเคลื่อนไหวในแดนลบ และปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สามในรอบสี่วันทำการ

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ 1.2968 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3066 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ ขณะที่ตลาดจับตาการแถลงต่อสภาสามัญชนของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในการนำสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หลังจากที่ได้เผยก่อนหน้านี้ว่า ข้อตกลงดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว 95%

โดยระหว่างการแถลงต่อสภาฯ ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า ขณะนี้มองเห็นเส้นชัยในการเจรจาถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) แล้ว พร้อมกับยอมรับว่าการเจรจาขั้นสุดท้ายจะเป็นส่วนที่ยากที่สุด

ผู้นำอังกฤษระบุในบทความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดอะซันว่า "ส่วนที่ยากที่สุดของ Brexit ยังมาไม่ถึง แต่เราก็เห็นเส้นชัยแล้ว และข้อตกลงที่เกิดขึ้นจะดีต่อประชาชนและประเทศชาติ"

นางเมย์กล่าวว่า Brexit คือการเปลี่ยนแปลงทางรัฐธรรมนูญครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของอังกฤษเพื่อคนทุกรุ่น ขณะที่การยกเลิกสนธิสัญญา ข้อตกลง และกฎหมายที่ใช้มานานกว่า 40 ปี ถือเป็นความท้าทายไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม เพราะยังไม่เคยมีประเทศใดออกจากสหภาพยุโรป (EU) มาก่อน

นายกฯอังกฤษระบุว่า "เหลือเวลาอีก 5 เดือนก่อนที่เราจะออกจาก EU และเราก็บรรลุข้อตกลงส่วนใหญ่แล้ว ดิฉันมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพาเราออกจาก EU ด้วยข้อตกลงที่ดีที่สุด"

การแถลงของนางเมย์ต่อสภาฯ วานนี้ มีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันและสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองภายในประเทศ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีประชาชนเกือบ 700,000 รายได้ออกมาเดินขบวนในกรุงลอนดอน เพื่อเรียกร้องให้มีการจัดลงประชามติเรื่องการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเป็นครั้งที่ 2

รายงานระบุว่า ในการเดินขบวนครั้งนี้ มีนายวินซ์ เคเบิล หัวหน้าพรรคลิเบอรัล เดโมแครตส์ ซึ่งถือเป็นตัวแทนทางการเมืองที่อาวุโสสูงสุดที่เข้าร่วมเดินขบวน นอกจากนี้ ยังมีนายซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน แคโรลีน ลูคัส อดีตหัวหน้าพรรคกรีน เป็นต้น

ด้านหุ้นรายตัว หุ้นเอ็นเอ็มซี เฮลธ์แคร์ พุ่ง 5.61% เป็นแกนนำหุ้นบวก หลังจากบริษัทบริการด้านสุขภาพซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดทั้งปี

ตามด้วยหุ้นรอยัล เมล พุ่ง 4.21% และอีซี่เจ็ท บวก 3.37% หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค พุ่ง 1.9%

หุ้นธนาคารและบริษัทเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป บวก 0.5% หลังมีรายงานว่า ธนาคารพร้อมที่จะซื้อหุ้นคืน 2 พันล้านปอนด์ในปีหน้า

หุ้นเกลนคอร์ บวก 0.8% หุ้นอันโตฟากัสตา เพิ่มขึ้น 0.7% และหุ้นอังโกล อเมริกัน บวก 1.6%

หุ้นลบนำโดย แพดดี้ พาวเวอร์ เบ็ตแฟร์ บริษัทรับพนัน ซึ่งร่วงลง 4% หุ้นวู้ด กรุ๊ป (จอห์น) บริษัทบริการด้านพลังงาน ร่วง 2.82% หุ้นเร็นโทคิล อินิเชียล บริษัทบริการทางธุรกิจรายใหญ่ ลบ 2.73%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ