ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (22 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน โดยนักลงทุนต่างรอดูการรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ อินเทล ทวิตเตอร์ อเมซอน และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงปัญหางบประมาณอิตาลี อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,317.41 จุด ลดลง 126.93 จุด หรือ -0.50% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,755.88 จุด ลดลง 11.90 จุด หรือ -0.43% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,468.63 จุด เพิ่มขึ้น 19.60 จุด หรือ +0.26%
ในช่วงแรกของการซื้อขาย ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่า 4% ของตลาดหุ้นจีน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบสองปี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของจีนหลายคนได้ทยอยออกมาแสดงความเห็นเชิงบวกเพื่อคลายความกังวลและฟื้นความเชื่อมั่นให้กับตลาดการเงินและนักลงทุนในประเทศ ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและตลาดหุ้นร่วงหนักเมื่อสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นจีนช่วยกระตุ้นแรงซื้อในตลาดหุ้นสหรัฐได้เพียงไม่นาน ขณะที่นักลงทุนกลับมาจดจ่อรอดูการรายงานผลประกอบการไตรมาสสามของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีมากถึงกว่า 150 บริษัท หลังจากที่การเปิดเผยผลประกอบการของหลายบริษัทจนถึงขณะนี้ นับได้ว่าน่าพอใจ
สำหรับบริษัทรายใหญ่ที่เตรียมเปิดเผยผลประกอบการนั้นรวมถึง อเมซอนดอทคอม อัลฟาเบท อินเทล เวอไรซอน ไมโครซอฟท์ ทวิตเตอร์ และแมคโดนัลด์ เป็นต้น
ขณะเดียวกันตลาดยังคงติดตามสถานการณ์ความไม่แน่นอนในยุโรป หลังมูดี้ส์ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงสู่ระดับ Baa3 จาก Baa2 โดยให้เหตุผลเรื่องตัวเลขขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน กระแสที่แรงขึ้นเกี่ยวกับการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของอิตาลี หรือ Italexit นั้น อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลอิตาลีกับยุโรปตึงเครียดมากขึ้นไปอีก จากปัจจุบันที่มีความขัดแย้งเรื่องงบประมาณกันอยู่
ทั้งนี้ รัฐบาลอิตาลีได้ส่งร่างงบประมาณแก่ EU ในคืนวันจันทร์ที่แล้ว โดยรัฐบาลอิตาลีต้องการเพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีหน้า โดยถึงแม้ EU กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีตัวเลขขาดดุลงบประมาณไม่เกิน 3% ของ GDP แต่อย่างไรก็ดี EU เรียกร้องให้อิตาลีดำเนินการไปสู่การมีงบประมาณสมดุล เนื่องจากอิตาลีมีหนี้ในภาครัฐจำนวนมาก
หุ้นเจคอบส์ เอนจิเนียริง บวก 6.8% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส บวก 5.8% โดยทั้งสองบริษัทมีการลงทุนมหาศาลในตลาดจีน
หุ้นกลุ่ม FANG ซึ่งประกอบด้วยเฟซบุ๊ก อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และบริษัทอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปรับตัวขึ้นก่อนเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งช่วยหนุนให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะหุ้นการเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือน
หุ้นคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ลดลง 3.5% หลังบริษัทเผยกำไรลดลง พร้อมประกาศปรับทีมบริหาร
หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ซึ่งเป็นบริษัทบริการด้านพลังงาน ลดลง 3% แม้บริษัทเผยกำไรและรายได้ดีเกินคาด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศปรับตัวลงสู่ระดับ +0.17 ในเดือนก.ย. จากระดับ +0.27 ในเดือนส.ค. ในขณะที่การผลิตและยอดขายอ่อนตัวลงในช่วงดังกล่าว แต่การจ้างงานฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
ขณะที่ตลาดรอดูผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อัตราการขยายตัวอาจชะลอลง แต่ยังคงใกล้เคียงระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2558