ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและงบประมาณของอิตาลี หลังจากสหภาพยุโรป (EU) ได้ปฏิเสธการยอมรับร่างงบประมาณประจำปีหน้าของอิตาลี พร้อมกับแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณของอิตาลี นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกยังสร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเช่นกัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิดที่ 354.06 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,274.28 จุด ลดลง 250.06 จุด หรือ -2.17% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,967.69 จุด ลดลง 85.62 จุด หรือ -1.69% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,955.21 จุด ลดลง 87.59 จุด หรือ -1.24%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและงบประมาณของอิตาลี หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ประกาศว่า อิตาลีจะต้องทำการทบทวนข้อเสนอร่างงบประมาณประจำปีหน้า โดยนายไดอาลอก วัลดิส ดอมโบรสกีส์ รองประธาน EC กล่าวว่า EC ไม่มีทางเลือก นอกจากปฏิเสธข้อเสนองบประมาณของรัฐบาลอิตาลี และอิตาลีมีเวลา 3 สัปดาห์ในการยื่นข้อเสนองบประมาณฉบับใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ EC ได้ปฏิเสธการยอมรับร่างงบประมาณของประเทศสมาชิก EU
รัฐบาลอิตาลีได้เพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีหน้า ขณะที่รัฐบาลชุดเดิมของอิตาลียืนยันว่าจะรักษาตัวเลขขาดดุลที่ 0.8% ของ GDP และ EU มองว่าร่างงบประมาณปี 2562 ของอิตาลีขัดต่อกฎหมายทางการเงินของ EU
ทั้งนี้ EU กำหนดให้ประเทศใน EU มีตัวเลขขาดดุลงบประมาณไม่เกิน 3% ของ GDP อย่างไรก็ดี EU เรียกร้องให้อิตาลีดำเนินการไปสู่การมีงบประมาณสมดุล เนื่องจากอิตาลีมีหนี้ในภาครัฐจำนวนมาก
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนีตลาดหุ้นจีนดิ่งลงกว่า 2% เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้พยายามกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 120 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และจากการร่วงลงของราคาหุ้นพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 4%
หุ้นไบเออร์ ซึ่งเป็นบริษัทยาและเคมีภัณฑ์ของเยอรมนี ร่วงลง 9.5% หลังจากผู้พิพากษาศาลในรัฐแคลิฟอเนียร์ได้สนับสนุนคำตัดสินของคณะลูกขุนที่มีคำสั่งให้บริษัทมอนซานโต ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไบเออร์ จ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งรายหนึ่งจำนวน 200 ล้านดอลลาร์ โดยคณะลูกขุนมีความเห็นว่า มอนซานโตมีความผิด กรณีที่ไม่ได้แจ้งผู้ป่วยรายนี้ รวมทั้งผู้บริโภครายอื่นๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งจากการใช้ผลิตภัณฑ์ยาฆ่าหญ้า "ราวน์อัพ" ซึ่งมีสารไกลโฟเสท