ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารบาร์เคลย์ส ขณะที่การอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติดีดตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,962.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.77 จุด หรือ +0.11%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์จึงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นของบริษัทเหล่านี้
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 3% และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี FTSE 100 ปิดในแดนบวก หลังจากบาร์เคลย์ส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของอังกฤษ เปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1 พันล้านปอนด์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 723 ล้านปอนด์
นายเจส สแตนลีย์ ผู้บริหารของบาร์เคลย์ส กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจมหภาคของอังกฤษเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แต่บาร์เคลย์สก็มีกำไรสุทธิที่สูงกว่าคาดการณ์ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า ปี 2561 เป็นปีที่ทางธนาคารสามารถดำเนินการตามกลยุทธ์ได้ดี
ส่วนหุ้นบริษัทรายอื่นๆที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ รวมถึงหุ้นบีที ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติด้านการสื่อสารโทรคมนาคม พุ่งขึ้น 4.05% ขณะที่หุ้นวู้ด กรุ๊ป และหุ้นโอคาโด กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 3.7% และ 3.6% ตามลำดับ