ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ จากการที่นักลงทุนพากันส่งคำสั่งซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว จากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล อิงค์ในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 21.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,018.09 จุด เพิ่มขึ้น 329.78 จุด หรือ 1.34%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป รวมทั้งข่าวการที่บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM) บรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการของบริษัทเรดแฮต (Red Hat) ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการ Linux ในวงเงิน 3.34 หมื่นล้านดอลลาร์
คาดว่าการเข้าซื้อกิจการของ Red Hat จะทำให้ IBM มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการในธุรกิจคลาวด์ และยอดขายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ รวมถึงระบบปฏิบัติการ Linux ของ Red Hat ในตลาดทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าพุ่งขึ้นทะลุ 3 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในปีนี้
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงราว 3% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากร่วงลงเกือบ 300 จุดเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ เช่น อัลฟาเบทและอเมซอน ได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงอย่างหนัก และได้บดบังปัจจัยบวกจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่ขยายตัวเกินคาดในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนก.ย. โดยดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ต่ำกว่าตัวเลขการใช้จ่ายในเดือนส.ค.ที่ระดับ 0.5%
การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.ย.ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ และการซื้อรถยนต์
หากมีการปรับค่าตามเงินเฟ้อ การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.
ส่วนค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค.
ขณะเดียวกัน ตัวเลขการออมลดลงสู่ระดับ 9.757 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากอยู่ที่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ทรงตัวในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานดีดตัวขึ้น 2.0% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด และเป็นการแตะระดับ 2.0% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5