ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.6% ปิดที่ 361.67 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,093.44 จุด เพิ่มขึ้น 114.92 จุด หรือ +2.31% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,447.51 จุด เพิ่มขึ้น 160.12 จุด หรือ +1.42% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,128.10 จุด เพิ่มขึ้น 92.25 จุด หรือ +1.31%
หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่งขึ้น 4% ขณะที่หุ้นบังโค ซานตานเดร์ ปรับตัวขึ้น 3% หลังจากธนาคารรายใหญ่ทั้งสองแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3
หุ้นลอรีอัล ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ของฝรั่งเศส ทะยานขึ้น 6.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในไตรมาส 3 ที่ระดับ 6.47 พันล้านยูโร สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.01 พันล้านยูโร
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวขึ้น 2.7% และหุ้นโททาล เพิ่มขึ้น 1.5%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายโดมินิค แรบ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) คาดการณ์ว่า อังกฤษจะสามารถทำข้อตกลง Brexit กับสหภาพยุโรป (EU) ได้ภายในวันที่ 21 พ.ย.
ทั้งนี้ นายแรบระบุกำหนดวันดังกล่าวในจดหมายที่ส่งไปยังนางฮิลารี เบนน์ ประธานคณะกรรมาธิการ Brexit ของรัฐสภาอังกฤษ โดยจดหมายดังกล่าวลงวันที่ 24 ต.ค.
นักลงทุนจับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยจะต่ำกว่าระดับ 201,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา