ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันศุกร์ (2 พ.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงค่าจ้างรายชั่วโมงที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีร่างข้อตกลงการค้ากับจีนตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,094.12 จุด ลดลง 20.54 จุด หรือ -0.29% ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ดัชนีพุ่งขึ้น 2.2% มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ย.
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาด ก่อนปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่พลิกจากเปิดบวกมาเคลื่อนไหวแดนลบเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงพุ่งขึ้นทะลุ 3% ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนต.ค. โดยเพิ่มขึ้น 250,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงพุ่งขึ้นทะลุ 3% นับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ โดยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังถูกกระทบหลังจากที่นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ออกมาระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีร่างข้อตกลงการค้ากับจีน
คำกล่าวของนายคุดโลว์มีขึ้นหลังจากที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการร่างข้อตกลงการค้ากับจีนแล้ว ก่อนที่ปธน.ทรัมป์มีกำหนดพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา โดยการประชุม G20 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
นอกจากนายคุดโลว์แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 3 รายในรัฐบาลของปธน.ทรัมป์ก็ได้กล่าวว่า ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าสหรัฐใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเจรจาเบร็กซิตของอังกฤษอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น โดยสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่ง 4.4% หุ้นพรูเด็นเชียล ไฟแนนเชียล บวก 3.8%
ด้านหุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ ลดลง 2.2%