ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากหุ้นแอปเปิลร่วงลงเกือบ 3% หลังจากสื่อรายงานว่าบริษัทแอปเปิล อิงค์ เตรียมยุติแผนเพิ่มกำลังการผลิต iPhone XR นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐจะมีขึ้นในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,461.70 จุด เพิ่มขึ้น 190.87 จุด หรือ +0.76% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,738.31 จุด เพิ่มขึ้น 15.25 จุด หรือ +0.56% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,328.85 จุด ลดลง 28.14 จุด หรือ -0.38%
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น หลังจากบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ เปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าคาด โดยหุ้นเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ปิดตลาดทะยานขึ้น 5% ซึ่งหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นราว 1.6%
ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านเมื่อวานนี้ โดยหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 3.6% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์ยี ทะยานขึ้น 8.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 2.5% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.4%
หุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬารายใหญ่ พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากนักวิเคราะห์จากบริษัทสตีเฟล นิโคลัส ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ สู่ระดับ 30 ดอลลาร์ จากระดับ 27 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.84% และเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากสำนักข่าวนิกเกอิรายงานว่า แอปเปิลได้แจ้งต่อบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ และเพกาตรอน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์ iPhone ของแอปเปิล เพื่อให้บริษัททั้งสองยุติแผนการเพิ่มกำลังการผลิต iPhone XR ซึ่งเป็น iPhone ราคาถูกรุ่นล่าสุดของแอปเปิล
นอกจากนี้ ราคาหุ้นแอปเปิลยังได้รับแรงกดดันหลังจากบริษัทโรเซนแบลตต์ ซีเคียวริตี้ส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าลงทุนของแอปเปิล จาก Buy สู่ Neutral หลังจากที่แอปเปิลได้รายงานยอดขาย iPhone ที่ต่ำกว่าคาด และคาดการณ์รายได้ที่น่าผิดหวัง พร้อมกับประกาศว่าจะยุติการแจ้งยอดขายจำนวน iPhone ในการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส โดยโรเซนแบลตต์ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่แอปเปิลจะสามารถชดเชยยอดขายจำนวนเครื่องที่ลดลง ด้วยราคาขายที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562
หุ้นอเมซอน ร่วงลง 2.3% ขณะที่นักลงทุนจับตาการตัดสินใจของผู้บริหารอเมซอน หลังจากหนังสือพิมพ์ วอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า อเมซอนกำลังพิจารณาคัดเลือกเมืองที่จะได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 ของบริษัท โดยเมืองดังกล่าวคือคริสตัล ซิตี้ ในนอร์เทิร์น เวอร์จิเนีย นอกจากนี้ อเมซอนกำลังพิจารณาการโยกย้ายพนักงาน และโรงงานไปยังเมืองดังกล่าว รวมทั้งแนวทางการประกาศผลการตัดสินใจ
นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้งสภา คือจำนวน 435 คน ขณะที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 คนจากทั้งหมด 100 คน รวมทั้งเลือกผู้ว่าการรัฐ 36 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐ
ขณะที่ผลการสำรวจของเอ็นบีซี นิวส์/วอลล์สตรีท เจอร์นัลพบว่า พรรคเดโมแครตยังคงมีคะแนนนำพรรครีพับลิกันอยู่ 7% โดยอยู่ที่ 50% ต่อ 43%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า พรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาดังกล่าวก็จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น
ทั้งนี้ หากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากได้ทั้ง 2 สภา สิ่งนี้ก็จะทำให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากจะทำให้รัฐบาลมีแนวโน้มออกมาตรการปรับลดอัตราภาษีต่อไป แต่หากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา ก็จะทำให้ตลาดหุ้นถูกกดดัน เนื่องจากจะทำให้การผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นไปอย่างลำบาก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 7-8 พ.ย.นี้ รวมทั้งรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย.