ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณความพร้อมที่จะร่วมมือกับพรรคเดโมแครตในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,509.10 จุด เพิ่มขึ้น 423.30 จุด, +1.92% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,398.90 จุด เพิ่มขึ้น 251.21 จุด, +0.96% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,721.20 จุด เพิ่มขึ้น 6.32 จุด, +0.37%
ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยพรรคเดโมแครตสามารถกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ขณะที่พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากปธน.ทรัมป์ได้จัดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า เขาจะทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสในประเด็นต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขของชาวอเมริกัน โดยจะร่วมมือกันในด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การขยายตัวทางเศรษฐกิจ, โครงสร้างพื้นฐาน, การค้า และการลดราคายาตามใบสั่งแพทย์
สำนักข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้ สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออกในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 20.1% ขณะที่ยอดการนำเข้าพุ่งขึ้น 26.3%
ทั้งนี้ ยอดส่งออกและนำเข้าต่างก็ปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 2.3363 แสนล้านหยวน (ประมาณ 3.376 หมื่นล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.1323 แสนล้านหยวนในเดือนก.ย.
ทางด้านรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเดือนก.ย. ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ร่วงลง 18.3% แตะที่ระดับ 8.022 แสนล้านเยน (ประมาณ 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีสาเหตุมาจากยอดสั่งซื้อในภาคการผลิตที่ชะลอตัวลง
นักลงทุนจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้