ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์ยังช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติปรับตัวขึ้นด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,140.68 จุด เพิ่มขึ้น 23.40 จุด หรือ +0.33%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์จึงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นของบริษัทเหล่านี้
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นและเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเช่นกัน โดยหุ้นเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 1% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ทะยานขึ้น 2.4% และหุ้นบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 2%
หุ้นเบอร์เบอร์รี่ กรุ๊ป ผู้จำหน่ายสินค้าหรูหรารายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้น 36% ในไตรมาส 3 และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2562
ส่วนหุ้นกลุ่มทรัพยากรปรับตัวผันผวน โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดตลาดอ่อนแรงลง 0.3% ขณะที่หุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้น 1.3%